10 อาการโรคข้อเสื่อม

ข้อเสื่อม ภัยเงียบที่ควรระวัง

จากที่ได้กล่าวถึงที่มาของโรคข้อเสื่อมจากบทความที่แล้ว วันนี้ทาง Zee Doctor จะมาอธิบายต่อถึง 10 อาการหลักๆของโรคข้อเสื่อม เพื่อช่วยให้เราได้สังเกตเห็นและสามารถเตรียมตัวป้องกันภัยเงียบที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ได้ :

สารบัญเนื้อหา 10 อาการโรคข้อเสื่อม

1. ปวดข้อ

knee age

ระยะเริ่มแรกของโรคข้อเสื่อม อาการปวดจะไม่รุนแรง จะมีอาการปวดมากเมื่อมีการใช้ข้อหรือการลงน้ำหนัก และอาการปวดจะบรรเทาเมื่อหยุดพักการใช้ข้อ ลักษณะการปวดจะเป็นแบบปวดลึกๆ อยู่ภายในข้อ เมื่ออาการรุนแรงมากขึ้นอาการปวดจะมากตามไปด้วย อาการของโรคข้อเสื่อมสามารถปวดได้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน อาการปวดจะเป็นเฉพาะข้อที่มีสภาพเสื่อมแต่อาจพบอาการปวดร้าวไปยังข้อที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้

อาการปวดอาจเกิดจากมีแรงดันบริเวณเยื่อหุ้มกระดูก ( periosteum ) จากกระดูกงอก การเพิ่มแรงกดดันต่อกระดูกใต้กระดูกอ่อน หรือการมีเลือดคั่งจากมีแรงดันในไขกระดูก หรือกระดูกส่วนทราบิคิวลาร์หัก หรือเอ็นและกล้ามเนื้อรอบข้อถูกดึงรั้ง และการอักเสบของเยื่อบุข้อและเยื่อหุ้มข้อ

2. ข้อฝืดขัด

โรคข้อเสื่อม-ผู้สูงอายุ

ระยะแรกๆของอาการอาจเป็นๆ หายๆ เมื่อขยับเคลื่อนไหวหรือใช้งานอาการจะดีขึ้น แต่ถ้ามีอาการรุนแรงจะเกิดการฝืดขัดมากขึ้นและมักเป็นในตอนเช้า โดยอาการฝืดขัดของข้อจะเป็นอยู่ไม่นานเกิน 30 นาที

3. ข้อบวมและโต หรือ ข้อใหญ่ผิดรูป

โรคข้อเข่า

หรือเรียกว่า (bony enlargement) เกิดจากกระดูกที่งอกโปนบริเวณข้อ เมื่อโรครุนแรงจะพบอาการของขาที่โก่งขึ้น (bow leg) ซึ่งพบได้บ่อยกว่าอาการเข่า(ขา)ฉิ่ง (knock knee) ส่วนอาการบวมเกิดจากน้ำซึมซ่านในข้อหรือ (effusion) จากการอักเสบ ดังนั้นอาการข้อบวมโตและผิดรูปจึงเป็นอาการของโรคข้อเสื่อมที่ต้องคอยสังเกต

เพิ่มเติม อาการขาฉิ่งคือความผิดปกติของเข่าที่พบได้บ่อยในทุกเพศและทุกวัย ซึ่งนอกจากความผิดปกตินี้จะทำให้เสียบุคลิกภาพแล้ว ยังอาจทำให้มีอาการปวด เดินลำบาก และสามารถนำไปสู่ปัญหาโครงสร้างอื่นๆ ของร่างกายได้ด้วย

4. ข้ออุ่น

พบในรายที่มีอาการอักเสบของข้อ

elderly knee pain

5. เจ็บบริเวณข้อ

กดเจ็บบริเวณข้อ เป็นอาการบ่งชี้ว่าเริ่มเข้าสู่ภาวะโรคข้อเสื่อม สามารถบรรเทาอาการปวดเบื้องต้นได้ด้วยการใช้สายรัดข้อเข่า สนใจสินค้า สายรัดข้อเข่า ดูรายละเอียด>>

6. มีเสียงดังกรอบแกรบในข้อ

หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า (crepitus) อาการนี้เกิดจากการเสียดสีของกระดูกใต้กระดูกอ่อน จากการที่กระดูกผิวข้อถูกทำลายโดยเฉพาะบริเวณข้อเข่าถ้าข้อเข่าเสื่อม  

7. พิสัยการเคลื่อนไหวของข้อลดลง

ข้อเข่าเสื่อม

หรือ (range of motion) จะพบเมื่อโรคข้อเสื่อมรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากกระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลายทำให้ผิวข้อไม่เรียบ อาจจะเกิดอาการกล้ามเนื้อรอบข้อหดเกร็ง เยื่อหุ้มข้อดึงรั้งและหดตัว และการงอกใหม่ของกระดูกที่ขัดขวางการเคลื่อนไหวของข้อ

8. ข้อผิดรูปหรือพิการ

ส่วนใหญ่มักพบบริเวณข้อของนิ้วมือ

9. ความมั่นคงของข้อเสียไป

พบมากโดยเฉพาะข้ออักเสบจากโรครูมาตอยด์ ส่วนข้อที่เสื่อมเนื่องจากมีกระดูกงอกใหม่ทำให้ความมั่นคงของข้อไม่เสียมาก

หมอ รักษา ข้อเสื่อม

10. กล้ามเนื้อรอบข้อลีบเล็ก

สาเหตุหลักมาจากการลดการใช้งานของข้อต่างๆ ภายในร่างกาย

สรุป:

โรคข้อเสื่อมพบได้บ่อยในผู้สูงอายุและสร้างความยากลำบากในการดำเนินชีวิตประจำวันสำหรับผู้สูงอายุ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันโรคข้อเสื่อมจะมีวิธีการรักษาที่ก้าวหน้าแต่การป้องกันก็ยังเป็นวิธีการที่สำคัญซึ่งผู้ป่วยจะต้องมีการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการเสื่อมของข้ออย่างเหมาะสม ทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของข้อและกล้ามเนื้อรอบข้อให้นานที่สุด

หรือถ้าผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาพยาบาลอาการของโรคข้อเสื่อม ผู้ป่วยควรมีการปรับรูปแบบการดำเนินชีวิตเพื่อให้ข้อที่เปลี่ยนมีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยาวนานที่สุด

แหล่งที่มาข้อมูลเรื่องโรคข้อเข้าเสื่อม:

การพยาบาลผู้สูงอายุ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริรัตน์ ปานอุทัย

โรคข้อเข่าเสื่อม โดย สมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทยhttps://bit.ly/2ViVnDL

อันดับแรก ต้องเข้าใจกันก่อนว่ารถเข็นที่ใช้งานอยู่ทุกวันนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่:

ประเภทแรก รถเข็น Wheel Chair แบบต้องใช้กำลังคนขับเคลื่อน ซึ่งก็สามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีก 2 ประเภท:

  1. Transport wheel chair– รถเข็น Wheel Chair ประเภทนี้จำเป็นต้องอาศัยคนช่วยเข็นเท่านั้น คนนั่งไม่สามารถเข็นเองได้ นิยมใช้งานกันในโรงพยาบาลเพื่อเคลื่อนย้ายคนไข้จากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง รถเข็นลักษณะนี้ จะมีล้อหลังขนาดเล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ประมาณ 8-14นิ้ว ผู้นั่งจะไม่สามารถเอื้อมมือไปขยับล้อเพื่อเคลื่อนไหวรถเข็นด้วยตัวเองได้ ข้อดีคือน้ำหนักเบา ราคาค่อนข้างถูก
  2. Manually propelled wheel chair– รถเข็น Wheel Chair ประเภทนี้ผู้ใช้งานสามารถที่จะขยับรถเข็นเคลื่อนที่เองได้โดยจะต้องใช้แขนทั้งสองข้างในการช่วยหมุนล้อ ส่วนในกรณีที่ต้องการเบรก ผู้ใช้งานต้องใช้แขนทั้งสองข้างจับที่วงปั่นเพื่อช่วยในการชะลอผ่อนความเร็ว รถเข็นประเภทนี้ จะมีล้อหลังขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20-24นิ้ว (51-61 ซ.ม.) ข้อดีคือผู้ใช้งานสามารถบังคับควบคุมรถได้ด้วยตนเอง

ประเภทที่สอง รถเข็น Wheel Chair ที่ใช้พลังงานภายนอก หรือ นิยมเรียกกันว่า รถเข็นไฟฟ้า

คือรถเข็นที่ใช้ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน โดยลักษณะภายนอกของรถเข็นและการใช้งานจะเหมือนกับแบบที่ใช้กำลังคนในการขับเคลื่อน แต่จะถูกติดตั้งเพิ่มเติมด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทำให้ผู้ใช้งานสามารถบังคับทิศทางการเคลื่อนที่ไปในทางที่ต้องการได้ รถเข็นแบบนี้นิยมใช้กับผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหนักไม่สามารถควบคุมการทำงานภายในร่างกายได้ หรือพิการ เป็นอัมพาตจนร่างกายขยับไม่ได้

รถเข็นไฟฟ้าช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุได้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ไม่สามารถขยับเขยื้อนช่วงล่างของร่างกายได้เลย ผู้ใช้งานสามารถบังคับรถเพื่อหลบหลีกทาง หรือ เขยิบไปในจุดที่สะดวกได้ด้วยตนเองหรือในขณะที่คนเข็นรถไม่อยู่

ข้อแนะนำในการเลือกรถเข็นผู้ป่วย ผู้สูงอายุ:

  1. ควรเลือกแบบที่สามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกในการพกพาไปในสถานที่ต่างๆ เพื่อความง่ายในการเคลื่อนย้าย
  2. รถเข็นควรมีเบรกและระบบล๊อคล้อเพื่อความปลอดภัย
  3. กรณีเป็นผู้ป่วยหนักจำเป็นต้องใช้รถเข็นในระยะเวลานาน ควรเลือกซื้อแบบที่ทนทาน มีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยสะดวก หากต้องเดินทางเป็นประจำควรซื้อแบบที่ทำด้วยอลูมิเนียม
  4. รถเข็นที่ดีต้องมีความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน ต้องไม่เทอะทะ ความลึกของเบาะนั่งต้องพอดีกับร่างกาย เมื่อนั่งแล้ว สะโพกและข้อเข่าควรงอทำมุมฉาก ควรมีช่องว่างระหว่างขอบที่นั่งกับข้อพับเข่าของผู้ป่วยเล็กน้อย หากที่นั่งลึกเกินไปอาจเกิดการเสียดสีเป็นแผลที่ใต้เข่าหรือผู้ป่วยอาจเลื่อนไหลตัวไปด้านหน้าจนอาจตกจากรถเข็นได้
  5. ต้องมีความปลอดภัยกับผู้ใช้งาน โดยควรคำนึงถึงความสูงของพนักพิงว่าต้องพอดี หากผู้ป่วยมีอาการที่ทรงตัวไม่ดี ควรใช้พนักพิงที่พอเหมาะพอดีกับตัว หากผู้ใช้งานทรงตัวดี ต้องการความคล่องตัวในการเข็นรถด้วยตนเองให้เลือกใช้พนักพิงแบบต่ำ
  6. ที่วางเท้าต้องพอเหมาะในขณะที่ผู้สูงอายุนั่ง ข้อเข่าและข้อเท้าควรงอตั้งฉากกัน ไม่ควรงอหรือเหยียดจนเกินไป หรือหากที่วางเท้าสูงเกินไปอาจส่งผลให้เกิดแรงกดไปที่ก้นมากจนอาจเกิดอันตราย เมื่อใช้ไปนานเข้าอาจทำให้ปวดหลังหรือเกิดแผลกดทับที่ก้นขึ้นมาได้

เครดิตข้อมูลจาก site :       

Phartrillion: https://phartrillion.com/how-to-choose-wheelchair/

ราคาเครื่องมือแพทย์.com:  https://bit.ly/38GGrWs