ความแก่ หรือริ้วรอยต่างๆบนร่างกายเป็นสิ่งที่ผู้คนทั้งหลายไม่พึงปรารถนา โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่อาจจะมีปัญหาด้านร่างกายที่เสื่อมถอยลง ริ้วรอยที่เพิ่มมากขึ้น ความสามารถในการฟื้นฟูต่างๆลดลง จะดีกว่าไหมถ้าเรามาเริ่มดูแล ป้องกันตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะชะลอความแก่โดยการเลือกประเภทของการกินที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยเรื่องความยืดหยุ่นของผิวพรรณแล้ว ยังจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย ในบทความนี้ขอแนะนำ 5 ประเภทของอาหารที่ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงเพื่อช่วยชะลอความแก่
Credit photo created by pressfoto – www.freepik.com
1. เครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟ และน้ำอัดลม
ชา กาแฟ และ น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มชนิดแรกๆที่ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงถ้าต้องการจะชะลอความแก่ เพราะ ชา กาแฟ 1 แก้ว หรือประมาณ 16 ออนซ์ จะมีน้ำตาลอยู่ 12 ช้อนชา ในส่วนน้ำอัดลมมีปริมาณน้ำตาลอยู่ประมาณ 7 ช้อนชา และน้ำผลไม้สำเร็จรูปมีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 6 ช้อนชา ซึ่งโดยหลักการคือ ถ้าน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากเกินไปจะมีการไปจับกับโปรตีน ทำให้เกิดสารเร่งแก่ หรือที่เรียกอีกอย่างว่าปฏิกิริยา “ไกลเคชั่น (Glycation)” และอาจทำให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระที่มากขึ้น คอลลาเจนขาดความยืดหยุ่น ทำให้เกิดริ้วรอยที่เพิ่มขึ้นได้
รวมทั้งถ้าเราบริโภคอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตขัดขาว(ผ่านการขัดสี) หรือได้รับน้ำตาลมากจนเกินไปจะเป็นผลเสียต่อร่างกาย ทำให้เกิดไขมันสะสม น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อบุคลิกภาพโดยรวม ข้อแนะนำในการรับประทานน้ำตาลในชา กาแฟ ผู้สูงอายุควรทานในปริมาณไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน หรือ 2 ช้อนชาต่อมื้อ ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลที่พอดี และ จะช่วยป้องกันความแก่ได้ดียิ่งขึ้น
2. อาหารที่มีไขมันอิ่มตัว และ ไขมันทรานส์
ถ้าผู้สูงอายุรับประทานอาหารประเภทไขมันมากจนเกินไป ไขมันเหล่านี้ก็จะไปกระตุ้นทำให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระ ทั้งยังอาจเกิดการอักเสบขึ้นภายในร่างกาย ผู้สูงอายุควรต้องระมัดระวังอาหารที่มีไขมันสูงโดยเฉพาะพวกไขมันทรานส์ อาทิ เนยเทียม ครีมเทียม น้ำมันทอดซ้ำ และ พวกของทอดที่เราซื้อจากภายนอกบ้าน ไขมันอิ่มตัวก็เป็นอีกตัวเร่งทำให้เกิดความแก่ถ้ารับประทานมากเกินไป อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวในที่นี้ได้แก่ ไขมันจากสัตว์ น้ำมันปาลม์ กะทิ และพวกเนื้อสัตว์แปลรูปอาทิ ไส้กรอก หมูยอ แฮม เบคอน กุนเชียง เป็นต้น
ไขมัน 2 ประเภทนี้จะแทรกซึมเข้าไปตามเซลล์ผิวหนังของเรา ทำให้ผิวหนังของเรารับสารอาหารที่มีประโยชน์ได้ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความแก่ชราที่รวดเร็วเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้แนะนำให้บริโภคไขมันประมาณ 30% ของพลังงานทั้งวัน หรือประมาน 6 ช้อนชาต่อวัน
Credit photo created by wirestock – www.freepik.com
3. อาหารที่ใช้ความร้อนสูง
อาหารที่ใช้ความร้อนสูงในการปรุง อาทิ อาหารปิ้ง ย่าง ทอด อาหารที่ใช้ความร้อนสูงจะยิ่งเร่งให้เกิดสารแก่มากขึ้น เช่น ไก่อบและไก่ทอดจะมีสารเร่งแก่มากกว่าไก่ต้มถึง 5-9 เท่า แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาหารทอดได้ แนะนำให้เลือกทานอาหารที่ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ในส่วนการปิ้ง ย่าง ก็ใช้แผ่นฟรอย์หรือใบตองห่อที่อาหารเพื่อลดอนุมูลอิสระและสารก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ แนวทางที่ดีที่สุดในการป้องกันสารเร่งแก่คือการเลือกวิธีการประกอบอาหารที่ใช้อุณหภูมิต่ำ ใช้ความร้อนไม่มากจนเกินไป อาทิ การต้ม การนึ่ง หรือ การผัดก็สามารถทำได้
Credit photo created by Racool_studio – www.freepik.com
4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในทางโภชนาการถือว่าแอลกอฮอล์เป็นสารว่างเปล่าไม่สามารถให้พลังงานใดๆได้ หลังจากที่เราดื่มเข้าไป ร่างกายก็จะเปลี่ยนสารเหล่านี้ให้เป็นไขมันสะสม และจะทำให้เกิดการออกซิเดชั่นและเกิดอนุมูลอิสระ นอกจากนนี้แอลกอฮอล์จะไปขัดขวางการดูดซึมของวิตามิน แร่ธาตุที่มีประโยชน์ภายในร่างกาย เพราะฉะนั้นถ้ายังคงดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไปจึงเป็นสาเหตุของการทำให้การแก่ก่อนวัยได้
Credit photo created by pressfoto – www.freepik.com
5. อาหารที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี และสารพิษต่างๆ
อาหารที่มีการปนเปื้อนของสารตะกั่ว อาทิ อาหารที่อยู่ริมทาง ข้างถนนที่ไม่ได้มีภาชนะคลุม รวมถึงอาหารหมักดองต่างๆที่อาจมีเชื้อแบคทีเรียสามารถก่อโรคได้ พอเราได้รับสารเคมีหรือสารพิษต่างๆ ร่างกายก็จะสร้างกระบวนการกำจัดสารพิษและเกิดอนุมูลอิสระ สุดท้ายก็จะเร่งความแก่ให้เกิดขึ้น
Credit photo created by pressfoto – www.freepik.com
ทั้ง 5 ประเภทนี้เป็นแค่แนวทางในการรับประทานเบื้องต้นเพื่อชะลอความแก่ แต่ทางที่ดีผู้สูงอายุควรดูแลตัวเองให้ครบทุกด้าน อาทิ การทำจิตใจให้สดใส ไม่เครียดจนเกินไป หรือ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากิจกรรมสร้างสรรค์ทำเพื่อป้องกันความเสื่อมของร่างกายและกระตุ้นความตื่นตัวของจิตใจ ที่สำคัญผู้สูงอายุควรนอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อจะช่วยซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอและช่วยชะลอความแก่ได้อย่างดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลที่เป็นประโยชน์จาก: คุณวนะพร ทองโฉม นักวิชาการโภชนาการ ฝ่ายโภชนาการ
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
บทความเรียบเรียงโดย Zeedoctor และ เครดิต Clip จาก Mahidol Channel: https://www.youtube.com/watch?v=l5mfiqmPRSM