ผู้สูงอายุ เป็นวัยที่นอกจากต้องใส่ใจเรื่องอาหารการกินแล้ว เรื่องของสุขภาพจิตก็เป็นสิ่งสำคัญ !
เพราะวัยนี้เป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตหลายอย่าง อารมณ์และความรู้สึกของผู้สูงอายุอาจเปราะบางเป็นพิเศษ และอาจส่งผลให้สุขภาพจิตย่ำแย่ มีความสุขน้อยลง ซึ่งก็จะพาลส่งผลกระทบต่อร่างกาย อาจจะมีอาการนอนไม่หลับ เบื่ออาหารหรืออ่อนแรง ฉะนั้นเราควรที่จะรู้จักวิธีการเตรียมตัวสู่การเป็นผู้สูงอายุที่มีความสุข มาเริ่มเรียมรู้ธรรมชาติและความเป็นไปของผู้สูงอายุเพื่อเตรียมความพร้อมกันก่อน

ธรรมชาติและความเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุ
- อารมณ์เหงาและว้าเหว่ เพราะคนวัยนี้มีเวลาว่างจากอาชีพการงาน บ้างพลัดพรากจากผู้ที่ใกล้ชิดและเป็นที่รัก นอกจากนี้ยังมีสภาวะทางกายเสื่อม อาทิ สายตาไม่ดี หูไม่ดี การทำกิจกรรมจึงมีข้อจำกัด โดยอารมณ์เหงาในผู้สูงอายุมักมีอารมณ์อื่นๆ ร่วมด้วย และก่อให้เกิดผลกระทบหลายอย่าง อาทิเช่น ซึมเศร้า เบื่ออาหาร ไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตหรือเกิดโรคภัยไข้เจ็บ
- อารมณ์เศร้าจากการพลัดพราก เช่น การสูญเสียคนที่รัก ก็มักจะมีอารมณ์ทางลบต่างๆ ทั้งว้าเหว่ เลื่อนลอยหลงๆ ลืมๆ ซึ่งหากผู้ที่จากไปมีความผูกพันกันอย่างมากแล้ว เขาก็อาจจะตามไปในเวลาไม่ช้า ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้
- อารมณ์โกรธ เมื่อยามที่มีความขัดแย้งกับลูกหลานไม่ยอมรับฟังความคิดเห็น ดูเสมือนเป็นเรื่องเล็กแต่สุดท้ายอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่บานปลายและลดทอนความสุขของผู้สูงอายุได้
- ขี้น้อยใจ เพราะคิดว่าตนเองไร้ค่าและลูกหลานไม่สนใจ
- การย้อนคิดถึงความหลัง เช่น นั่งคิดอะไรคนเดียวเงียบๆ บอกเล่าให้เพื่อนฟังหรือมักเดินทางไปยังสถานที่คุ้นเคย เพราะการย้อนอดีตเพื่อดูว่าชีวิตที่ผ่านมาสมหวังหรือไม่ และหากย้อนไปแล้วรู้สึกไม่พึงพอใจก็อาจเกิดความรู้สึกคับแค้น แต่หากผู้สูงอายุย้อนคิดถึงอดีตแล้วเกิดความพอใจ และสามารถปรับตนให้ตระหนักถึงความไม่เที่ยงในชีวิตท่านผู้นั้นก็จะสามารถมีความสุขตามวัยได้
- วิตกกังวล เป็นความรู้สึกที่ผู้สูงอายุกลัวว่าต้องพึ่งลูกหลาน ขาดความมั่นใจ ขาดความสามารถ กลัวภัย หรือกลัวการไม่ได้รับการเอาใจใส่ดูแล เป็นเหตุทำให้อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง เบื่ออาหาร หายใจไม่ออกหรือเป็นลมง่าย
- กลัวถูกทอดทิ้ง เนื่องจากผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลง
- หงุดหงิด เนื่องจากผู้สูงอายุทำอะไรด้วยตนเองได้น้อยลง ใครทำอะไรก็ไม่ถูกใจ จึงกลายเป็นคนจู้จี้ขี้บ่น แสนงอน ท้ายสุดก็ไม่เกิดความสุขในบั้นปลายของชีวิต

แต่ปัญหาเหล่านั้นสามารถป้องกันได้ถ้าผู้สูงอายุเรียนรู้และรู้จักการปรับตัวยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และในวันนี้เรามี 9 วิธีสร้างสุขให้ผู้สูงอายุ แล้วคุณจะพบว่าการเป็นผู้สูงอายุที่มีความสุข แบบง่ายๆนั้นจะต้องปฏิบัติตัวเช่นไร
- ผู้สูงอายุควรรู้จักโอนอ่อนผ่อนตามความเห็นของลูกหลาน คิดเรื่องต่างๆ ด้วยความยืดหยุ่นว่าทำอะไรจึงจะอยู่ร่วมกับครอบครัวและคนอื่นได้อย่างดีที่สุด และเกิดความขัดแย้งน้อยที่สุด มีความสุขมากที่สุด
- ผู้สูงอายุทำใจตระหนักได้ว่าการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา
- ผู้สูงอายุควรมองชีวิตตนเองในทางที่ดี ภาคภูมิใจที่สามารถเป็นที่พึ่งพิงแก่ผู้อ่อนวัย คอยให้แนวคิด วิธีการใช้ชีวิตจากประสบการณ์ที่ผ่านมาแนะนำให้ลูกหลานได้รับฟังและนำไปปรับใช้ในชีวิตจริง
- เมื่อมีความกังวลต่างๆ เช่น เป็นห่วงลูกหลานจะลำบาก กังวลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยของตน ควรศึกษาพูดคุยกับคุณใกล้ชิดก็ได้ระบายความรู้สึก เป็นต้น
- พยายามหากิจกรรมฝึกงานอดิเรกที่ทำแล้วรู้สึกเพลิดเพลิน และมีคุณค่าทางจิตใจ เช่น ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น
- ผู้สูงอายุควรเข้าสังคมพบปะสังสรรค์กับผู้อื่น เพื่อพูดคุยกันปรับทุกข์
- ผู้สูงอายุควรยึดหลักศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ เช่น สวดมนต์ เข้าวัด ทำบุญ ฝึกสมาธิ เป็นต้น
- ผู้สูงอายุควรดูแลรักษาสุขภาพกายให้ดี หมั่นออกกำลังตามความเหมาะสมของสภาพร่างกาย รับปะทานอาหารที่มีประโยชน์ ย่อยง่าย ไม่หนักท้องจนเกินไป คอยตรวจสุขภาพและเข้าพบแพทย์ตามเวลานัดหมายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บแล้วจะเกิดความสุข
- หมั่นทำจิตใจให้เบิกบานอยู่เสมอ ไม่เครียด ไม่จู้จี้ หรือหงุดหงิดง่าย สร้างความสุขแบบง่ายๆด้วยการปรับวิธีคิด อย่าไปยึดติดกับอะไรมากจนเกินไป ปล่อยให้เป็นไปตามที่มันควรจะเป็น
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุเท่านั้นที่ต้องปรับตัว ผู้ดูแลผู้สูงอายุเองก็ต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน และเมื่อทั้งสองฝ่ายปรับตัวเข้าหากันได้ก็จะส่งผลดีทำให้เกิดความสุข ความสบายใจ ผ่อนคลาย สุดท้ายจะบังเกิดความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ รวมทั้งคนรอบข้าง
เครดิตบทความ: สสส. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
เครดิต link:
เรียบเรียงเนื้อหาเพื่อความเหมาะสม: ทีมงาน zeedoctor