การดูแลผู้สูงอายุที่มีการมองเห็นบกพร่อง

 วัตถุประสงค์ในการวางแผนการพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุที่มีการมองเห็นบกพร่องก็เพื่อให้คงหน้าที่ของการมองเห็นที่ยังเหลืออยู่ไว้ให้มากที่สุดและชดเชยการมองเห็นในส่วนที่สูญเสียไป และไม่เกิดอันตรายหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการมองเห็นบกพร่องหรือจากการรักษา โดยสอนให้ผู้สูงอายุทราบถึงความผิดปรกติที่อาจพบได้ วิธีการป้องกัน การค้นหาความผิดปรกติตั้งแต่ในระยะแรก การรักษาและดูแลตัวเอง

problems-eyes-for-elderly

credit pic by freepik.com – www.freepik.com

1. การพยาบาลเพื่อคงหน้าที่ของการมองเห็นที่ยังเหลืออยู่ไว้ให้มากที่สุด

  • แนะนำให้สวมหมวกที่มีปีกด้านหน้าหรือสวมแว่นตากันแดดทุกครั้งที่ออกนอกบ้านหรือเมื่อจะต้อสัมผัสแสง
  • แนะนำวิธีค้นหาต้อหินตั้งแต่ระยะแรก โดยผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปควรได้รับการวัดความดันลูกตาทุกปี
  • ในรายที่เป็นต้อกระจก (อ่านความหมายเพิ่มเติมของโรคต้อกระจก) และมองเห็นไม่ชัด ควรแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เพื่อขอรับการผ่าตัด และแนะนำให้ผู้สูงอายุทราบถึงวิธีการรวมทั้งขั้นตอนการผ่าตัด เพื่อป้องกันและลดความเชื่อที่ผิดๆ
  • ในผู้สูงอายุที่มีอาการระคายเคืองจากตาแห้งควรแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมที่มีขายทั่วไปอยู่ตามร้านขายยามาหยอด โดยเฉพาะก่อนการอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตา จะช่วยลดอาการระคายเคืองลงได้
  • แนะนำวิธีการอื่นในการช่วยลดอาการระคายเคือง เช่น ใช้ความเย็นประคบ แนะนำให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา เช่นควันไฟ สเปรย์ฉีดผม ลมแรงๆ เป็นต้น
  • หากอาการระคายเคืองยังไม่หายควรปรึกษาแพทย์ เพราะยาบางอย่างอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาแก้แพ้ เป็นต้น

2. การดูแลเพื่อชดเชยการมองเห็นในส่วนที่สูญเสียไป

eyes-disease-elderly

credit pic by rawpixel – www.freepik.com

  • แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่ช่วยในการมองร่วมกับการดัดแปลงสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้แว่นขยายร่วมกับการเปิดไฟ หรือการลดแสงที่สว่างจ้าเกินไปเป็นต้น
  • การลดแสงจ้าขณะอ่านหนังสือ ควรให้แสงเข้าทางด้านซ้ายของคนถนัดขวา และให้แสงเข้าด้านขวาในคนที่ถนัดซ้าย
  • แนะนำวิธีการใช้แว่นขยาย โดยเริ่มจากการวางแว่นขยายไว้ใกล้ๆตัวหนังสือ ค่อยๆถอยแว่นขยายออกมาจนเห็นตัวหนังสือชัด โดยทั่วไปจุดที่เห็นตัวหนังสือชัดจะอยู่ในระยะที่แว่นขยายอยู่ห่างจากตัวหนังสือประมาณ 2 เซนติเมตร
  • ใช้ตัวหนังสือที่ใหญ่ขึ้น ปรับหรือติดโคมไฟให้อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมคือติดไฟห่างจากวัตถุที่จะมองประมาณ 1-2 ฟุต เพราะผู้สูงอายุจะต้องการความสว่างมากกว่าคนอายุน้อยประมาณ 3 เท่า และแสงจะลดลง 4 เท่า เมื่อระยะห่างออกไป 1 เท่า
  • แนะนำให้สวมแว่นตาช่วยในการอ่านหนังสือ
  • ควรหลีกเลี่ยงการอ่านหนังสือที่ใช้กระดาษที่มีผิวมัน

3. การดูแลเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายจากการมองเห็นบกพร่อง

elderly-eyes-disease

credit pic by user18526052 – www.freepik.com

3.1 ดัดแปลงสิ่งแวดล้อมที่ช่วยในการมองเห็น ควรแนะนำผู้สูงอายุดังนี้:

  • จัดให้มีแสงสว่างเพียงพอ ควบคุมแสงที่เข้าตาและปรับความมืดความสว่างให้เหมาะสม
  • ควรใช้หลอดไฟสีขาวนวลขนาด 60-75 วัตต์ ติดไว้เหนือศีรษะ
  • ม่านที่ใช้ในห้องน้ำควรเป็นพลาสติกสีใส ไม่ควรเป็นสีทึบหรือมีลวดลาย
  • ควรใช้ม่านสีอ่อนๆ ติดบริเวณหน้าต่างเพื่อลดแสงที่เข้าตา
  • ควรติดไฟดวงเล็กๆบริเวณทางเดินตอนกลางคืนหรือเก็บไฟฉายไว้ที่เตียง
  • บริเวณบันไดหรือทางเดินควรให้มีแสงสว่างเพียงพอ

3.2 การใช้สีตัดกัน ควรแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้:

  • ควรใช้เทปหรือทาสีสดๆไว้บริเวณขอบบันไดทุกขั้น โดยเฉพาะขั้นแรกและขั้นสุดท้าย
  • ควรใช้ถ้วยชามที่มีสีตัดกันสำหรับใส่อาหาร ไม่ควรให้สีกลมกลืนกัน
  • โถส้วมควรมีสีตัดกับผนังและพื้นห้องน้ำ
  • ควรใช้สบู่คนละสีกับอ่างล้างหน้าหรือที่วางสบู่ ภาชนะที่มีด้ามหรือมือถือควรใช้สีสดๆ
  • สวิตช์ไฟควรตกแต่ขอบไม่ให้มีสีเดียวกับฝาผนัง

3.3 การดัดแปลงสิ่งแวดล้อมอื่นๆ:

  • ไม่ควรเปลี่ยนที่หรือจัดวางเครื่องเรือนใหม่โดยไม่แจ้งให้ผู้สูงอายุทราบ
  • แนะนำให้ผู้สูงอายุหยุดนิ่งสักครู่ขณะเปลี่ยนที่จากที่สว่างไปที่มืดหรือจากที่มืดไปที่สว่างเพื่อให้เวลาปรับสายตา
  • แนะนำให้ผู้สูงอายุใช้เท้าและมือช่วยในการนำทางในบริเวณที่มีขอบกั้น ทางต่างระดับ หรือขอบเก้าอี้

4.การพยาบาลเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ได้แก่:

 ใช้ยาหยอดตาเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อหรือลดการอักเสบ สวมที่ครอบตาหรือแว่นตาเพื่อป้องกันฝุ่นเข้าตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือกดบริเวณลูกตา ห้ามก้มเก็บของที่พื้นหรือก้มระดับต่ำกว่าเอวเพราะอาจทำให้เลนส์ที่ใส่ใหม่เลื่อน ห้ามยกของหนักแต่สามารถเดินขึ้นบันไดหรือทำงานบ้านเบาๆได้ ให้สวมที่ครอบตาทุกครั้งที่อาบน้ำและนอนหลับเพื่อป้องกันการเผลอขยี้ตา หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหลังผ่าตัด 1 เดือนและควรสวมแว่นตากันแดดเมื่อออกนอกบ้าน

elderly-eyes-problems

credit pic by katemangostar – www.freepik.com

สรุป: การมองเห็นที่บกพร่องในผู้สูงอายุจะทำให้ผู้สูงอายุมีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวันและอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ดังนั้นการตรวจพบเพื่อให้การดูแลรักษาตั้งแต่ในระยะต้นๆ เช่นไปรับการตรวจเช็คการมองเห็นและตรวจตาทุกปี หรือการสวมแว่นตากันแดดขณะออกจากบ้านจะช่วยป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้

ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูลเรื่อง: การพยาบาลผู้สูงอายุที่มีปัญหาการมองเห็น

จากหนังสือ: การพยาบาลผู้สูงอายุโดย ผศ.ดร.ทศพร คำผลศิริ

อันดับแรก ต้องเข้าใจกันก่อนว่ารถเข็นที่ใช้งานอยู่ทุกวันนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่:

ประเภทแรก รถเข็น Wheel Chair แบบต้องใช้กำลังคนขับเคลื่อน ซึ่งก็สามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีก 2 ประเภท:

  1. Transport wheel chair– รถเข็น Wheel Chair ประเภทนี้จำเป็นต้องอาศัยคนช่วยเข็นเท่านั้น คนนั่งไม่สามารถเข็นเองได้ นิยมใช้งานกันในโรงพยาบาลเพื่อเคลื่อนย้ายคนไข้จากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง รถเข็นลักษณะนี้ จะมีล้อหลังขนาดเล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ประมาณ 8-14นิ้ว ผู้นั่งจะไม่สามารถเอื้อมมือไปขยับล้อเพื่อเคลื่อนไหวรถเข็นด้วยตัวเองได้ ข้อดีคือน้ำหนักเบา ราคาค่อนข้างถูก
  2. Manually propelled wheel chair– รถเข็น Wheel Chair ประเภทนี้ผู้ใช้งานสามารถที่จะขยับรถเข็นเคลื่อนที่เองได้โดยจะต้องใช้แขนทั้งสองข้างในการช่วยหมุนล้อ ส่วนในกรณีที่ต้องการเบรก ผู้ใช้งานต้องใช้แขนทั้งสองข้างจับที่วงปั่นเพื่อช่วยในการชะลอผ่อนความเร็ว รถเข็นประเภทนี้ จะมีล้อหลังขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20-24นิ้ว (51-61 ซ.ม.) ข้อดีคือผู้ใช้งานสามารถบังคับควบคุมรถได้ด้วยตนเอง

ประเภทที่สอง รถเข็น Wheel Chair ที่ใช้พลังงานภายนอก หรือ นิยมเรียกกันว่า รถเข็นไฟฟ้า

คือรถเข็นที่ใช้ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน โดยลักษณะภายนอกของรถเข็นและการใช้งานจะเหมือนกับแบบที่ใช้กำลังคนในการขับเคลื่อน แต่จะถูกติดตั้งเพิ่มเติมด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทำให้ผู้ใช้งานสามารถบังคับทิศทางการเคลื่อนที่ไปในทางที่ต้องการได้ รถเข็นแบบนี้นิยมใช้กับผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหนักไม่สามารถควบคุมการทำงานภายในร่างกายได้ หรือพิการ เป็นอัมพาตจนร่างกายขยับไม่ได้

รถเข็นไฟฟ้าช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุได้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ไม่สามารถขยับเขยื้อนช่วงล่างของร่างกายได้เลย ผู้ใช้งานสามารถบังคับรถเพื่อหลบหลีกทาง หรือ เขยิบไปในจุดที่สะดวกได้ด้วยตนเองหรือในขณะที่คนเข็นรถไม่อยู่

ข้อแนะนำในการเลือกรถเข็นผู้ป่วย ผู้สูงอายุ:

  1. ควรเลือกแบบที่สามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกในการพกพาไปในสถานที่ต่างๆ เพื่อความง่ายในการเคลื่อนย้าย
  2. รถเข็นควรมีเบรกและระบบล๊อคล้อเพื่อความปลอดภัย
  3. กรณีเป็นผู้ป่วยหนักจำเป็นต้องใช้รถเข็นในระยะเวลานาน ควรเลือกซื้อแบบที่ทนทาน มีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยสะดวก หากต้องเดินทางเป็นประจำควรซื้อแบบที่ทำด้วยอลูมิเนียม
  4. รถเข็นที่ดีต้องมีความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน ต้องไม่เทอะทะ ความลึกของเบาะนั่งต้องพอดีกับร่างกาย เมื่อนั่งแล้ว สะโพกและข้อเข่าควรงอทำมุมฉาก ควรมีช่องว่างระหว่างขอบที่นั่งกับข้อพับเข่าของผู้ป่วยเล็กน้อย หากที่นั่งลึกเกินไปอาจเกิดการเสียดสีเป็นแผลที่ใต้เข่าหรือผู้ป่วยอาจเลื่อนไหลตัวไปด้านหน้าจนอาจตกจากรถเข็นได้
  5. ต้องมีความปลอดภัยกับผู้ใช้งาน โดยควรคำนึงถึงความสูงของพนักพิงว่าต้องพอดี หากผู้ป่วยมีอาการที่ทรงตัวไม่ดี ควรใช้พนักพิงที่พอเหมาะพอดีกับตัว หากผู้ใช้งานทรงตัวดี ต้องการความคล่องตัวในการเข็นรถด้วยตนเองให้เลือกใช้พนักพิงแบบต่ำ
  6. ที่วางเท้าต้องพอเหมาะในขณะที่ผู้สูงอายุนั่ง ข้อเข่าและข้อเท้าควรงอตั้งฉากกัน ไม่ควรงอหรือเหยียดจนเกินไป หรือหากที่วางเท้าสูงเกินไปอาจส่งผลให้เกิดแรงกดไปที่ก้นมากจนอาจเกิดอันตราย เมื่อใช้ไปนานเข้าอาจทำให้ปวดหลังหรือเกิดแผลกดทับที่ก้นขึ้นมาได้

เครดิตข้อมูลจาก site :       

Phartrillion: https://phartrillion.com/how-to-choose-wheelchair/

ราคาเครื่องมือแพทย์.com:  https://bit.ly/38GGrWs