5 อาหารว่างที่เหมาะกับผู้สูงอายุ 2020

“You are what you eat” เป็นประโยคที่เราท่านคุ้นเคยกันดี เรารับประทานอะไรเข้าไป สุขภาพร่างกายเราก็จะเป็นแบบนั้น สำหรับผู้สูงอายุก็เช่นกัน ถ้าผู้สูงอายุรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ สารอาหารหลักครบทั้ง 5 หมู่ เราก็มั่นใจเบื้องต้นได้ว่าสุขภาพของผู้สูงอายุจะมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต นอกเหนือไปจากอาหารมื้อหลักที่ผู้สูงอายุควรจะรับประทานให้ครบทั้ง 5 หมู่แล้ว อาหารมื้อรอง (อาหารว่าง) ก็สำคัญไม่น้อยเช่นกัน วันนี้ Zee Doctor จะขอมาแนะนำอาหารว่าง 5 อย่างที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ photo created by jcomp – www.freepik.com 1. ฟักทองนึ่ง อาหารว่างอย่างแรกที่มีประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุ ทั้งยังเป็นที่นิยมอย่างมากคือ “ฟักทองนึ่ง” ฟังดูอาจจะรู้สึกธรรมดา เฉยๆ แต่เชื่อเถอะว่าฟักทองนั้นประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ประโยชน์มหาศาล ผู้สูงอายุที่รับประทานฟักทองจะได้รับสารเบต้าแคโรทีนที่ช่วยบำรุงสายตา มีสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น ทั้งยังลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ฟักทองที่มีสีเหลืองออกส้ม มีไขมันน้อย น้ำตาลน้อย กากใยอาหารสูง พลังงานต่ำ จึงเป็นอาหารว่างที่เหมาะกับผู้สูงอายุ ฟักทองยังช่วยเรื่องของระบบขับถ่าย ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายเนื่องจากมีกากใยสูง ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับลำไส้ […]
การดูแลผู้สูงอายุที่มีการมองเห็นบกพร่อง

วัตถุประสงค์ในการวางแผนการพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุที่มีการมองเห็นบกพร่องก็เพื่อให้คงหน้าที่ของการมองเห็นที่ยังเหลืออยู่ไว้ให้มากที่สุดและชดเชยการมองเห็นในส่วนที่สูญเสียไป และไม่เกิดอันตรายหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการมองเห็นบกพร่องหรือจากการรักษา โดยสอนให้ผู้สูงอายุทราบถึงความผิดปรกติที่อาจพบได้ วิธีการป้องกัน การค้นหาความผิดปรกติตั้งแต่ในระยะแรก การรักษาและดูแลตัวเอง credit pic by freepik.com – www.freepik.com 1. การพยาบาลเพื่อคงหน้าที่ของการมองเห็นที่ยังเหลืออยู่ไว้ให้มากที่สุด แนะนำให้สวมหมวกที่มีปีกด้านหน้าหรือสวมแว่นตากันแดดทุกครั้งที่ออกนอกบ้านหรือเมื่อจะต้อสัมผัสแสง แนะนำวิธีค้นหาต้อหินตั้งแต่ระยะแรก โดยผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปควรได้รับการวัดความดันลูกตาทุกปี ในรายที่เป็นต้อกระจก (อ่านความหมายเพิ่มเติมของโรคต้อกระจก) และมองเห็นไม่ชัด ควรแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เพื่อขอรับการผ่าตัด และแนะนำให้ผู้สูงอายุทราบถึงวิธีการรวมทั้งขั้นตอนการผ่าตัด เพื่อป้องกันและลดความเชื่อที่ผิดๆ ในผู้สูงอายุที่มีอาการระคายเคืองจากตาแห้งควรแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมที่มีขายทั่วไปอยู่ตามร้านขายยามาหยอด โดยเฉพาะก่อนการอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตา จะช่วยลดอาการระคายเคืองลงได้ แนะนำวิธีการอื่นในการช่วยลดอาการระคายเคือง เช่น ใช้ความเย็นประคบ แนะนำให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา เช่นควันไฟ สเปรย์ฉีดผม ลมแรงๆ เป็นต้น หากอาการระคายเคืองยังไม่หายควรปรึกษาแพทย์ เพราะยาบางอย่างอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาแก้แพ้ เป็นต้น 2. การดูแลเพื่อชดเชยการมองเห็นในส่วนที่สูญเสียไป credit pic by rawpixel – www.freepik.com แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่ช่วยในการมองร่วมกับการดัดแปลงสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้แว่นขยายร่วมกับการเปิดไฟ หรือการลดแสงที่สว่างจ้าเกินไปเป็นต้น การลดแสงจ้าขณะอ่านหนังสือ […]
3 โรคที่เกี่ยวกับตาในผู้สูงอายุ

เมื่ออายุมากขึ้นจะพบลักษณะอาการของการมองเห็นที่ผิดปรกติเกิดขึ้นได้ เช่นตาพร่ามัว ทนต่อแสงสว่างไม่ได้ มองเห็นคล้ายมีแสงฟ้าแลบ หรือรู้สึกคล้ายมีจุดดำๆลอยผ่านไปมา ความผิดปรกติดังกล่าวเป็นผลมาจากการแก่ตัวลงและชราภาพของร่างกาย นอกจากนั้นการมองเห็นผิดปรกติหรือการสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุยังอาจเกิดจากโรคที่เกิดขึ้นกับดวงตา โดยพบว่าโรคที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุของการสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุประกอบไปด้วย 3 โรคหลักได้แก่: โรคต้อกระจก โรคต้อหิน และโรคจอประสามทตาเสื่อม ซึ่งในที่นี้ Zee Doctor จะพูดถึงรายละเอียดของ 3 โรคดังกล่าวต่อไปนี้ credit pic by rawpixel.com – www.freepik.com ต้อกระจก ความหมายของโรค: โรคต้อกระจกเป็นภาวะที่มีการขุ่นของเลนส์หรือปลอกหุ้มเลนส์ ทำให้แสงผ่านเข้าได้ไม่เต็มที่ ซึ่งพบบ่อยในผู้สูงอายุ ปรกติเลนส์จะทำหน้าที่รวมแสงให้ไปตกที่จอรับภาพเพื่อให้เห็นภาพชัดทั้งในระยะใกล้และไกล เลนส์ประกอบด้วยน้ำและโปรตีนโดยส่วนที่เป็นโปรตีนจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เลนส์ใสหรือให้แสงผ่านได้ ในผู้สูงอายุโปรตีนในเลนส์อาจจะจับเป็นก้อนทำให้เลนส์ขุ่นขึ้นบางส่วน เมื่อระยะเวลานานขึ้นบริเวณที่ขุ่นจะมีมากขึ้นทำให้ตามัวมองเห็นไม่ชัด สาเหตุของการเกิดต้อกระจก: credit pic by user18526052 – www.freepik.com สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่หลักสำคัญอย่างหนึ่งของต้อกระจกคือการที่ตาถูกแสงแดด หรือแสงอุลตร้าไวโอเลตเป็นเวลานาน นอกจากนั้นยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่พบว่าทำให้เกิดต้อกระจกได้ดังนี้ ปัจจัยส่วนบุคคลได้แก่ อายุมากขึ้น เนื่องจากเมืออายุมากขึ้นจะมีการเพิ่มขึ้นของไขมันชนิด สฟิงโกไลปิดในเลนส์ตา เพศหญิงมีโอกาสเกิดมากกว่าเพศชายเนื่องจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิด oxidative stress ที่เป็นสาเหตุทำให้เกินต้อกระจก […]
การฟื้นฟูสภาพผู้สูงอายุคืออะไร

ผู้สูงอายุจะมีสมรรถภาพเสื่อมถอยลงอย่างช้าๆ โดยมีปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งความเจ็บป่วยหรือความเสื่อมของร่างกายตามอายุที่มากขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองลดลงนำมาสู่การพึ่งพาคนอื่นมากขึ้น การฟื้นฟูสภาพผู้สูงอายุมีความจำเป็นเพื่อชะลอความเสื่อมถอยของความสามารถ รักษาความสามารถที่ยังเหลืออยู่และฟื้นฟูส่วนที่สูญเสียไปจากการไม่ได้ใช้งานเพื่อให้ผู้สูงอายุกลับมาดำเนินชีวิตได้ด้วยตนเองและพึ่งพิงบุคคลอื่นให้น้อยลง ภาพโดย ErikaWittlieb จาก Pixabay สารบัญเนื้อหา 1. เป้าหมายของการฟื้นฟูสภาพผู้สูงอายุ credit pics by Pixabay – www.pixabay.com เป้าหมายที่สำคัญในการฟื้นฟูสภาพผู้สูงอายุก็เพื่อคงไว้ซึ่งการเคลื่อนไหวร่างกาย และความสามารถ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุสร้างความสมดุลโดยการออกกำลังกายและสร้างโปรแกรมที่มีกิจกรรมทางโภชนาการที่ดี รวมทั้งในด้านอารมณ์และสังคมและดูแลผู้สูงอายุโดยทั่วไปที่ดี ดังนั้น ยิ่งให้ผู้สูงอายุปฏิบัติกิจกรรมมากเท่าไร่ก็ยิ่งทำให้ผู้สูงอายุสามารถทำกิจกรรมได้ด้วยตนเองมากขึ้นเท่านั้น อาทิเช่น การออกกำลังกายจะช่วยให้สมรรถภาพหัวใจดีขึ้น ความเร็วในการเดินก็จะมากขึ้นเช่นเดียวกับความเร็วในการตอบสนองของร่างกายก็จะดีขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตามอาการปวดเป็นสาเหตุสำคัญที่ขัดขวางการฟื้นฟูสภาพ อาการปวดที่เกิดจากการอักเสบเช่นในผู้สูงอายุที่ปัญหาข้อเสื่อมจะมีการอักเสบของเยื่อหุ้มข้อโดยเฉพาะข้อเข่าจะทำให้กล้ามเนื้อน่องไม่สามารถหดรัดตัวได้เนื่องจากเมื่อมีการเคลื่อนไหวจะมีอาการปวด ดังนั้นการฟื้นฟูสภาพควรเริ่มต้นด้วยการลดอาการอักเสบโดยการใช้ยาหรือใช้ความเย็น ผู้สูงอายุยังควรต้องมีการเคลื่อนไหวข้อแต่ต้องมีการปกป้องข้อที่ถูกวิธีด้วยการทำกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัด และการสนับสนุนด้านสังคมและจิตใจ ดังนั้นเป้าหมายสำคัญของการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายผู้สูงอายุคือ การฟื้นฟูความสามารถทั้งทางร่างกาย สังคม และจิตใจ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความสามารถช่วยเหลือตนเองได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีความเป็นตัวของตัวเอง และกลับไปใช้ชีวิตในสังคมสิ่งแวดล้อมที่เคยอยู่ก่อนการเจ็บป่วย 2. วิธีการฟื้นฟูสภาพในผู้สูงอายุ credit pics by Pixabay – www.pixabay.com การฟื้นฟูสภาพผู้สูงอายุประกอบด้วย 2 วิธีหลักได้แก่ การออกกำลังกายเพื่อการรักษา และ การใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยต่างๆ รวมถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคและการปฏิบัติตัว 3. การออกกำลังกายเพื่อการรักษา เนื่องจากผู้สูงอายุพบปัญหากล้ามเนื้อลีบเล็กลง จึงอาจรบกวนการทำกิจวัตรประจำวัน […]
ข้อควรระวังเบื้องต้นสำหรับการใช้ยาในผู้สูงอายุ

คนเราเมื่อมีอายุที่มากขึ้นร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลง เกิดภาวะความเสื่อมทั้งในด้านโครงสร้างและการทำหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ นอกจากนั้นผู้สูงอายุส่วยใหญ่ยังคงมี่โรคประจำตัวที่เรื้องรังทำให้ต้องใช้ยารักษาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผู้สูงอายุเป็นกลุ่มผู้บริโภคยากลุ่มใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่ง ด้วยเหตุผลข้างต้นที่ผู้สูงอายุมีการใช้ยาอย่างมาก จึงอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการดูดซึม และการกระจายตัวของยา รวมทั้งการเผาผลาญและการขับถ่ายยาออกจากร่างกาย ดังนั้นเราจึงควรดูแลผู้สูงอายุอย่างเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามกระบวนการชราภาพที่เกิดขึ้น credit pics by freepik – www.freepik.com ปัญหาที่เกิดจากการใช้ยาในผู้สูงอายุ การใช้ยาร่วมกันหลายชนิด และต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานในผู้สูงอายุ ทำให้มีโอกาสเกิดปัญหาหลายอย่างได้แก่ การทำปฏิกิริยาต่อกันระหว่ายากับยา ยากับอาหาร หรือ ยากับโรค และการไม่ใช้ยาตามแผนการรักษา ทั้งหมดนี้อาจทำให้เกิดปัญหาด้านการใช้ยากับผู้สูงอายุได้ง่าย 1. การทำปฏิกิริยาต่อกันระหว่างยากับยา credit pics by freepik – www.freepik.com เกิดจากความแตกต่างระหว่างฤทธิ์ของยาแต่ละชนิด ซึ่งอาจเป็นความแตกต่างทางด้านการดูดซึมยา การกระจายตัวของยา หรือการเปลี่ยนแปลงยาในร่างกาย การขับถ่ายออกจากร่างกาย หรือเกิดจากความแตกต่างระหว่างการออกฤทธิ์ของยาต่อตัวรับยาในร่างกาย อาทิเช่น ปฏิกิริยาระหว่างยาต้านการแข็งตัวของเลือดคือ warfarin ถ้าใช้ร่วมกับยาแอสไพริน อาจเพิ่มฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด ทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่าย หรือถ้าผู้ป่วยได้รับยาเพิ่มแรงบีบตัวของหัวใจ คือยา ไดจอกซิน และได้รับยาขับปัสสาวะที่มีผลทำให้โปตัสเซียมในเลือดต่ำจะเกิดพิษจากยาไดจอกซิน เนื่องจากการขับไดจอกซินจากไตลดลง 2. ผลกระทบระหว่างยากับโรค credit […]
6 อาการปวดในผู้สูงอายุที่ควรระมัดระวัง

เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยสูงอายุ อาการปวดต่างๆภายในร่างกายสามารถพบได้บ่อยขึ้น เนื่องจากระบบการทำงานของร่างกายมีประสิทธิภาพลดลง ทำให้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ถามหาได้ง่ายกว่าวัยหนุ่มสาว ผู้สูงอายุควรหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอว่ามีอาการอะไรบ้างหรือไม่ที่ผิดปรกติไปกว่าเดิม หรือในอีกทางลูก-หลานต้องคอยหมั่นดูแล สังเกตอาการต่างๆของผู้สูงอายุในบ้านเพื่อเป็นการช่วยระมัดระวังอันตรายต่อสุขภาพที่จะเกิดขึ้น วันนี้ทาง Zee Doctor จะขอพูดถึง: 6 อาการปวดเบื้องต้นที่ผู้สูงอายุพึงสังเกต ระมัดระวัง และถ้ายังไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ credit pics by freepik – www.freepik.com 1. ปวดศีรษะ ถ้ามีอาการปวดศีรษะหรือปวดหัวอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาจจะบ่งชี้ได้ว่ามีอาการผิดปรกติเกี่ยวกับระบบสมอง หรืออาจจะมีเลือดออกในสมอง หรือ เนื้องอกในสมอง ดังนั้นไม่ควรละเลยทิ้งไว้ ควรรีบตรวจสอบสาเหตุของอาการโดยการไปพบแพทย์ 2. ปวดแน่นหน้าอก credit pics by freepik – www.freepik.com ถ้าผู้สูงอายุมีอาการปวดและอึดอัดแน่นหน้าอกอย่างเฉียบพลัน อาจมีปัญหาทางด้านโรคหัวใจได้ ทั้งนี้อาการปวดจะไม่ได้ปวดแบบทรมาน แต่จะแน่น และอึดอัดมากกว่า ถ้าจะให้ดีเพื่อความแน่ใจ ผู้สูงอายุควรรีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด 3. ปวดหลัง credit pics by freepik – www.freepik.com โดยปรกติผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีอาการปวดหลังเป็นประจำอยู่แล้ว […]
โรคกระดูกพรุนคืออะไร

โรคกระดูกพรุนเกิดจากกระบวนการสูญเสียมวลกระดูกอย่างช้าๆต่อเนื่อง มวลกระดูกและคุณภาวะกระดูกลดลง โดยมวลกระดูกที่ถูกสะสมไว้มีจำนวนน้อยกว่าปรกติ หรือมีการสลายของกระดูกมากกว่าปรกติ ในเพศหญิงมวลกระดูกมีมากที่สุดในช่วงอายุประมาณ 35 ปี และคงอยู่จนถึงวัยหมดประจำเดือน อัตราการลดลงของมวลกระดูกในช่วงแรกของวัยหมดประจำเดือนจะสูงประมาณร้อยละ 7 หลังจากนั้นมวลกระดูกจะลดลงเรื่อยๆ ร้อยละ 1-2 ต่อปี แต่ในเพศชายหลังจากมวลกระดูกมีสูงสุดช่วงอายุประมาณ 35 ปี แล้วจะค่อยๆลดลงประมาณร้อยละ 1-2 ต่อปี ฉะนั้นเพศหญิงมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคกระดูกพรุนได้สูงกว่าเพศชาย สารบัญเนื้อหา 1. ความหมายของโรคกระดูกพรุน นิยามของโรคกระดูกพรุนได้รับการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย โดยเน้นเรื่องสำคัญ 3 เรื่องได้แก่ ความแข็งแกร่งของกระดูก ความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งเป็นผลรวมทำให้กระดูกมีความแข็งแกร่ง และ คุณภาพกระดูก โดยในเรื่องของคุณภาพกระดูกนั้นหมายรวมถึงความแตกต่างในโครงสร้างของกระดูกของแต่ละบุคคล วงจรการสลายและสร้างกระดูก และองค์ประกอบของเนื้อกระดูก 2. ปัจจัยเสี่ยงโรคกระดูกพรุน ปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุนอาจจะยากในการแยกจากปัจจัยเสี่ยงต่อการลดลงของการทำหน้าที่ของระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อ ได้แก่ การขาดการออกกำลังกาย รวมทั้งแนวทางการรับประทานอาหาร ซึ่งผลจากการศึกษาพบว่าการออกกำลังกายและรับประทานอาหารโปรตีน แคลเซียมและวิตามินดี ทำให้กำลังกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นส่งผลให้กล้ามเนื้อแข็งแรง แต่อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุนำมาสู่การเกิดภาวะกระดูกพรุนชนิดที่สัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้น ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนมีดังนี้: เพศหญิง มีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่าเพศชายถึง 4 เท่า เนื่องจากมวลกระดูกในเพศหญิงมีน้องกว่าเพศชายประมาณ ร้อยละ 30 และผู้สูงอายุเพศหญิงในวัยหมดประจำเดือนขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งฮอร์โมนนี้มีผลต่อกระบวนการสร้างกระดูกและป้องกันการสลายของกระดูก […]
4 สิ่งจำเป็นที่ผู้สูงอายุควรมีติดตัวอยู่ตลอดเวลา

ผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสภาพร่างกายที่ถดถอยลงทุกวัน ทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันต้องมีการปรับตัวและดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีอยู่ตลอดเวลา เพื่อลดการพึ่งพาลูกหลานให้มากที่สุด อีกทั้งผู้สูงอายุถ้าสามารถดูแลตัวเองได้ ก็จะมีความภาคภูมิใจ ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดีมักมีกิจกรรมต่างๆทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เบื่อหน่าย ทำให้ผู้สูงอายุมีความสุขกับการใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสมบูรณ์ แต่ทั้งนี้กิจกรรมต่างๆ ก็ควรจะมีความเหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้สูงอายุ ไม่ทำให้ต้องออกแรงมากจนเกินไป หรือเกิดความกดดัน ตึงเครียด ซึงสุดท้ายอาจกลายเป็นผลเสียให้แก่ผู้สูงอายุได้ ผู้สูงอายุถึงแม้ว่าจะแข็งแรงหรือสุขภาพดีเพียงใด ก็ยังคงต้องมีตัวช่วยที่จะทำให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างคล่องแคล่ว รวมทั้งดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ดีที่สุด ฉะนั้นผู้สูงอายุควรเตรียมความพร้อมในสิ่งที่จำเป็นต้องมีติดตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมา วันนี้ Zee Doctor จะมาแนะนำ 4 สิ่งจำเป็นที่ผู้สูงอายุควรจะต้องมีติดตัวไว้ตลอด: 1). ยาประจำตัว หรือ ยาที่จำเป็น เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีโรคประจำตัว หรืออย่างน้อยก็มียาที่จำเป็นต้องใช้บ่อย ฉะนั้นควรมีติดตัวไว้เสมอ เพราะเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยหรือยามจำเป็นจะได้หยิบหามารับประทานเพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยของสุขภาพที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที หรือในกรณีที่ผู้สูงอายุท่านนั้นๆ ไม่ได้มีโรคประจำตัว อย่างน้อยก็ควรมียาสามัญประจำบ้านติดไว้เสมอ อาทิเช่น ยาดม ยาลม ยาหม่อง หรือยาแก้ปวดเมื่อย ปวดหัว วิงเวียนต่างๆ รวมทั้งยาป้องกันแมลงสัตว์กัดต่อยก็สำคัญ ต้องไม่ลืมว่าเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ อาจเกิดปัญหาด้านสุขภาพ เจ็บป่วยเล็กน้อย ได้ง่าย กว่าคนวัยอื่นๆทั่วไป ฉะนั้นมีติดตัวไว้ก็ไม่เสียหาย 2). แว่นสายตา ผู้สูงอายุโดยส่วนมากมีปัญหาด้านสายตาแทบทั้งสิ้น ปัญหาด้านสายตาสัน-สายตาเอียง […]
ข้อควรระวังของการหกล้มในผู้สูงอายุ ตอนที่ 2

หลังจากบทความที่แล้วได้ให้ข้อมูลถึงสาเหตุของการหกล้มในผู้สูงอายุไปแล้ว วันนี้ทาง Zee Doctor จะมาอธิบายเพิ่มเติมถึงวิธีการประเมินและป้องกันอันตรายของการหกล้มในผู้สูงอายุต่อ สารบัญเนื้อหา 1. การประเมินภาวะหกล้มในผู้สูงอายุ การประเมินปัจจัยเสี่ยง โดยถ้าสามารถประเมินปัจจัยเสี่ยงได้ ก็จะสามารถป้องกันภาวะหกล้มโดยการจัดการกับภาวะเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยงต่อการหกล้มในผู้สูงอายุมีหลายปัจจัย ปัจจัยด้านประวัติการหกล้มพบว่าผู้สูงอายุที่เคยหกล้มมักจะเกิดการหกล้มได้อีกในภาวะเดิม ปัญหาที่เกิดตามมาเมื่อมีการหกล้มคือความกลัวต่อการหกล้มโดยพบว่าเป็นปัญหาที่รุนแรงและส่งผลต่อปัญหาด้านจิตใจตามมา ซึ่งปัญหานี้ทำให้ผู้ให้การดูแลหรือบุคลากรด้านสุขภาพเตือนผู้ป่วยไม่ให้ลุกจากเตียงเนื่องจากจะหกล้มอีกทำให้ผู้สูงอายุจำกัดกิจกรรม ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการหกล้มมากยิ่งขึ้น การหกล้มมักเกิดขณะที่จะไปห้องน้ำเพื่อขับถ่ายหรือขณะจะเคลื่อนย้ายไปยังเก้าอี้ถ่าย ซึ่งเป็นการดีถ้าญาติ พี่น้อง หรือผู้ดูแลคอยสังเกตและคอยให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุ การหกล้มจะพบมากในผู้สูงอายุที่มีความสับสนจากสมองเสื่อมหรือสับสนเฉียบพลันเนื่องจากไม่ตระหนักเกี่ยวกับความปลอดภัยและการตัดสินใจบกพร่อง ภาวะมึนงงก็เป็นปัญหาทีอาจทำให้เกิดการหกล้มในผู้สูงอายุ อาจเกิดขึ้นได้จากโรคเบาหวาน พาร์คินสัน โรคหลอดเลือดสมอง หรือหลอดเลือดแคโรติดที่คอตีบ ภาวะความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนท่า การได้รับยา หรือปัญหาเกี่ยวกับหูด้านใน ดังนั้นการประเมินและคอยสังเกตอาการของผู้สูงอายุในภาวะมึนงงและการให้การแก้ไขดูแล จะช่วยป้องกันการเกิดการหกล้มได้ การใช้ยาจัดเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการหกล้มในผู้สูงอายุ เช่น ยาเบนโซไดอะซีพีน หรือยานอนหลับอื่นๆ รวมถึงการใช้ยามากกว่า 4 ชนิด ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิต และยาโรคหัวใจอาจส่งผลให้ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง ทำให้ความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนท่าทาง การใช้ยาต้านภาวะซึมเศร้า ยาลดความวิตกกังวลรวมทั้งยาระงับประสาทซึ่งส่งผลระงับการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางทำให้การรับรู้และการนำกระแสประสาทลดลง ทั้งหมดนี้ทำให้การทำหน้าทีด้านร่างกายลดลงส่งผลให้เกิดการหกล้มในผู้สูงอายุได้ง่าย ภาพโดย Mabel Amber จาก Pixabay ผู้สูงอายุที่มีภาวะกระดูกพรุนมีโอกาสกระดูกหักจากการหกล้มโดยเฉพาะบริเวณสะโพก ข้อมือ และกระดูกสันหลัง นอกจากนั้นผู้สูงอายุมักมีปัญหากล้ามเนื้อและไขมันลดลงทำให้มีโอกาสเกิดการได้รับบาดเจ็บเมื่อมีการหกล้มเนื่องจากขาดเนื้อเยื่อที่ช่วยลดแรงกระแทก ดังนั้นควรแนะนำให้ผู้สูงอายุที่เสี่ยงต่อการหกล้มใส่ที่ป้องกันสะโพก […]
ข้อควรระวังของการหกล้มในผู้สูงอายุ ตอนที่ 1

สินค้าผู้สูงอายุ กดเพื่อเรียกดู บริการไปรับยา ติดต่อเรา ติดต่อเราได้ที่ วันนี้เรามีภัยเงียบอีกตัวที่ต้องคอยระวังสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย การหกล้มในผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ต้องคอยใส่ใจให้ความสำคัญ ไม่สามารถละเลยได้เพราะวัยสูงอายุเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยลง อันจะนำมาสู่การเกิดภาวะเสี่ยงต่างๆมากมายรวมถึงภาวะเสี่ยงด้านสุขภาพ ภาวะเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บโดยเฉพาะการหกล้มซึ่งเป็นความเสี่ยงที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ การหกล้มในผู้สูงอายุสามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง 2 กรณีคือ ผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และผู้สูงอายุที่อยู่ที่บ้าน โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายประการทั้งปัจจัยด้านบุคคล ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจัยด้านสุขภาพ เราในฐานะลูก-หลาน จึงมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและจัดการกับความเสี่ยงของการหกล้มในผู้สูงอายุ การหกล้มในผู้สูงอายุพบว่ามีเพิ่มสูงขึ้นตามอายุที่มากขึ้น องค์กรอนามัยโลกระบุว่าเฉลี่ยแล้วใน 1 วัน มีผู้เสียชีวิตจากการหกล้มประมาณ 1,160 คน สำหรับประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตจากการหกล้มเฉลี่ยวันละ 3 คน โดยเป็นผู้สูงอายุชายสูงกว่าผู้สูงอายุหญิงกว่า 3 เท่า ฉะนั้นการหกล้มนำมาซึ่งการบาดเจ็บตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรงจนเสียชีวิต credit pics by rawpixel.com/freepik ” จากรายงานการพยากรณ์การพัดตกหกล้มของผู้สูงอายุในประเทศไทยปี พ.ศ. 2560-2564 ของสำนักงานโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข พบว่าอัตราการเสียชีวิตจากการหกล้มในผู้สูงอายุมีมากกว่าทุกกลุ่มอายุเป็นจำนวนถึง 3 เท่า และคาดการณ์ว่าระหว่างปี 2560-2564 มีผู้สูงอายุหกล้มปีละประมาณ 3,030,900-5,506,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้จะมีผู้เสียชีวิตจำนวน 5,700-10,400 […]